top of page

แตะหลัก 90 !

  • Writer: สุพรรณษา พาคํา
    สุพรรณษา พาคํา
  • Aug 19, 2020
  • 1 min read

ree

พรีเมียร์ลีกยุคแรกเริ่ม มักจะมีคำกล่าวว่า "ถ้าคุณอยากได้แชมป์ ต้องแพ้ไม่เกิน 6 นัด" ซึ่งนั่นหมายถึงค่าเฉลี่ยของทีมที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้นๆ นะครับ แต่ตอนนี้มาตรฐานที่ว่านั้นได้ถูกยกระดับขึ้นมาไกลมากพอสมควร ซึ่งลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์เองก็เช่นกัน พวกเขายกระดับตัวเองให้มีความสม่ำเสมอและทำผลงานระดับ 90 แต้ม+ ถึง 2 ฤดูกาลติดกันแล้วครับ


คำตอบของคล็อปป์ !!

ลิเวอร์พูลนั้น ได้ชื่อว่าคว้าแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ สล็อตออนไลน์ ไปแล้วครับ ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดคำถามที่ว่า เจอร์เก้น คล๊อปป์นั้นจะตัดสินใจแบบไหน กับโปรแกรมที่เหลืออยู่ อย่างแรก คือ เดินหน้าใส่เต็มสูบ และไล่ล่าสถิติที่ต้องการต่างๆ ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำแต้มเยอะสุด หรือ ชนะติดต่อกันในบ้านเยอะที่สุด หรืออย่างที่สอง คือ ให้โอกาสกับ พวกตัวสำรองและเด็กเยาวชน


ให้มีโอกาสลงสนามพิสูจน์ฝีเท้า ในเกมที่เหลือ เพื่อที่จะได้โชว์ฟอร์มให้เข้าตาและพร้อมจะยกระดับตัวเองให้เป็นตัวเลือกของเจอร์เก้น คล็อปป์ในฤดูกาลหน้า นัดที่เจอกับไบรท์ตันนี้คำตอบค่อนข้างชัดเจนแล้วครับ ว่าคล๊อปป์นั้น “เอาทุกอย่าง” (ฮาาาา) จริงๆ นั่นคือ เขานั้นให้โอกาสพวกดาวรุ่งและตัวสำรองให้มีโอกาสลงในเกมมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังไม่ทิ้งเกมไปเสียทีเดียว พวกเขายังดูมุ่งมั่นเพื่อที่จะเก็บแต้มและกวาดชัยชนะ เพื่อล่าสถิติต่อไปให้ได้ เกมนี้ก็็เช่นกันครับ เขาให้โอกาสกับ เนโกร วิลเลี่ยม


ลงสนามในตำแหน่งแบ็กซ้าย ให้โอกาส อเล็กซ์ อ๊อกส์เลด-แชมเบอร์เลน ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย แม้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัดและคุ้นตาของทั้งคู่เท่าไร แต่นาทีนี้ถ้ามีโอกาสได้ลงสนาม ยังไงทั้งสองคนก็เต็มใจที่จะลงมามีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าที่จะนั่งกร่อยอยู่ข้างสนามแน่นอนล่ะครับ อีกคนที่ได้รับโอกาสเช่นกัน แต่น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต่างออกไปคือ นาบี เกอิต้า ที่ดูเหมือนว่าเขากำลังเรียกฟอร์มเก่ง คืนกลับมาได้อีกครั้งในช่วงนี้ นอกนั้นก็ยังเป็นชุดหลักๆ เดิมๆ ของทีมครับ นั่นแสดงให้เห็นว่าคล็อปป์นั้นยัง “เอานะ” อยู่เหมือนกัน


การกลับมาขอเกเก้น เพรสซิ่ง

ช่วงหลังๆ มานี้เราแทบไม่ได้เห็นการเพรสซิ่งของลิเวอร์พูลกันเลยครับ อาจจะด้วยสาเหตุทีี่ว่าพวกเขาต้องเซฟแรงไว้ หรือไม่ก็คู่แข่งส่วนใหญ่จะมาเน้นตั้งรับเสียมาก จนไม่มีโอกาสได้ใช้เกมเพรสซิ่งเป็นอาวุธเท่าไรนัก แต่เกมกับไบรท์ตันนี้ทางเจ้าถิ่นไม่ได้เกรงกลัวและตั้งรับเป็นรถบัสกับพวกเขาเท่าไรนัก และค่อนข้างจะเปิดเกมสู้ด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาต้องต่อบอลชึ้นมาจากแดนตัวเองอยู่บ่อยๆ และตรงนั้นเองเป็นจุดที่ลิเวอร์พูลเล่นงานพวกเขาได้อยู่หมัดเลยทีเดียวครับ เกมนี้พวกเขาเล่นเพรสซิ่งกดดันเจ้าถิ่นตั้งแต่ในแดนของไบรท์ตันเอง และทำได้อย่างยอดเยี่ยมเสียด้วย


โดยเฉพาะกับนาบี เกอิต้า ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อเขาโชว์ความขยันไล่บี้กดดัน จนเป็นกุญแจสำคัญที่ให้ลิเวอร์พูลนำเจ้าถิ่นตั้งแต่ไก่โห่ จากโม ซาล่าห์ และหลังจากนั้นไม่นานก็เหมือนหนังม้วนเดิม เมื่อเกอิต้าตัดบอลจากการขึ้นเกมของผู้เล่นไบรท์ตันได้อีกครั้ง จนสุดท้ายก็ไปจบที่การยิงปั่นโค้งอย่างสุดสวยของกัปตันเฮนโด้ ทำให้ลิเวอร์พูลนำไป 2-0 ตั้งแต่ยังไม่พ้น 10 นาทีด้วยซ้ำ แต่พอได้ประตูนำเร็ว ลิเวอร์พูลเองก็ผ่อนเกมลงไประดับหนึ่ง ซึ่งนั่นก็เปิดโอกาสให้กับไบรท์ตันได้มีโอกาสกลับมาสู่เกมของพวกเขาได้อีกครั้

เกมแรกของเจ้าหนูเนโก้


เนโกร วิลเลี่ยมนั้น ได้โอกาสลงสนามให้กับชุดใหญ่ลิเวอร์พูลมาบ้างแล้วก็จริง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเปลี่ยนตัวลงมา และมักจะลงสนามในตำแหน่งแบ็กขวาที่ตัวเองถนัดครับ แต่ในเกมนี้เจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่เจ้าตัวไม่ถนัดเท่าไร ซึ่งผลงานก็ตามความถนัดของเจ้าตัวนั่นแหละครับ (ฮา) ด้วยความที่เขาเองนั้นไม่ใช้คนที่ถนัดเท้าซ้ายธรรมชาติ ทำให้เกมรุกส่วนใหญ่ก็มักจะช้าไปจังหวะหนึ่งเสมอ เนื่องจากว่าเขานั้นต้องแต่งบอลให้เข้าเท้าขวาข้างที่ถนัดของเขาก่อน ทำให้เกมรุกด้านซ้ายขาดความต่อเนื่องไปเหมือนกัน แม้จะมีลูกขยันวิ่งขึ้นมาเติมตลอดแต่จังหวะสุดท้ายยังถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าไรจริงๆ ในส่วนของเกมรับ ก็แสดงให้เห็นว่าเขานั้นยัง


“ละอ่อน” อยู่มากพอสมควรเหมือนกัน ASIA369 ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของประสบการณ์นั่นแหละครับ ตามที่เห็นนั้นผมคิดว่าความเร็วของเจ้าหนูคนนี้ไม่ได้เป็นรองแนวรุกของไบรท์ตันเท่าไรเลย แต่”เหลี่ยม” และ “จังหวะ” การวิ่งและการเข้าสกัดนั้นยังไม่ดีเท่าไร ทำให้พื้่นที่ของเขานั้นเป็นเป้าหมายให้คู่แข่งโจมตีตลอดครึ่งแรก และสุดท้ายเจ้าถิ่นก็ได้ประตูตีตื้นจากการโจมตีพื้นที่ฝั่งนี้จนได้ เมื่อแลมป์เตย์แบ็กขวาดาวรุ่งของเจ้าถิ่นครอสบอลเข้าไปที่จุดนัดพบบริเวณจุดโทษให้ทรอสซาร์เอี้ยวตัวกดด้วยขวาแบบไม่จับบอลพุ่งทะลุอลิสซอนเข้าไปอย่างเด็ดขาด ปิดฉากครึ่งแรกไปแบบเสียวๆ โดยรวมๆ ก็ถือว่าเจ้าหนูเนโกรนั้น หัวจิตหัวใจห้าวเกินตัวจริงๆ ที่ยังขาดก็แค่ประสบการณ์เท่านั้น แต่เห็นแบบนี้ก็น่าจะการันตีได้ว่า ประตูสู่ชุดใหญ่ของเจ้าตัวนั้นเปิดกว้างรอรับอยู่ในฤดูกาลหน้าจริงๆ



 
 
 

Comentarios


Join our mailing list. Never miss an update

Thanks for submitting!

  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon
  • White Pinterest Icon
  • White Twitter Icon
  • White YouTube Icon

© 2023 by Fashion Diva. Proudly created with Wix.com

bottom of page