เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ (สเปน)
- สุพรรณษา พาคํา
- May 26, 2020
- 1 min read
อีกหนึ่งตำนานลูกหนังของ เรอัล มาดริด มีฉายาว่า'เอล บุยเตร้'หรือ 'พญาแร้ง' เขาลงเล่นในช่วงเวลาเดียวกับ อูโก้ ซานเชซ และ ฮอร์เค่ วัลดาโน่ นำทัพ คาสิโน 'โลส บลังโกส'เข้าสู่ยุคทองเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิง 5 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 1985-1990 เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ เป็นผู้เล่นที่มีความสง่างามมองเห็นชัดเจนในสนามตรงข้ามกับฉายาของเขา
เขาเติบโตขึ้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสร (เรอัล มาดริด กาสตีย่า) ใช้โอกาสของเขาอย่างมีสไตล์ ซึ่งเขาทำสกอร์ได้ภายใน 15 นาทีของการลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ ก่อน บูตราเกนโญ่ ยังเป็นคนทำประตูให้ทีมชุดขาวกำชัยชนะจากการลงเล่นเกมที่สองของเขา ซึ่งเป็นการคัมแบ็กคว้าชัยหลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง กาดีซ 0-2 และ'พญาแร้ง'ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมชุดขาวในเวลาต่อมาอีกหลายปี ตลอดอาชีพกับมาดริดทำ 171 ประตูจากการลงเล่น 436 เกม
กองหน้าชาวฮังกาเรียนมาถึงสโมสรตอนอายุ 31 ปี หลังสร้างชื่อเสียงกับ บูดาเปสต์ ฮอนเวด สโมสรบ้านเกิด สิ่งที่เขานำมาสู่ทีมชุดขาวเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมฐานะนักเตะที่เขาเป็น นักฟุตบอลที่มีความสามารถเหลือเชื่อ มีไอคิวฟุตบอลสูงและมีความสามารถพิเศษในการทำประตู

หัวหอกชาวฮังกาเรียนเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถจับคู่ทะลวงคู่แข่งร่วมกับ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อีกหนึ่งตำนานของสโมสร แม้อดีตดาวดังชาวอาร์เจนไตน์จะบดบังรัศมีของกองหน้าชาวฮังกาเรียนจากการคว้ารางวัลปิชีชี่ 4 สมัย แต่ เฟเรนซ์ ปุสกัส ยังทำแฮตทริคในเกมชิงชนะเลิศของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1962 ที่ทีมชุดขาวพ่าย เบนฟิก้า 3-5
อย่างไรก็ตามภาพจดจำมากสุดของ ปุสกัส เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1960 กับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ซึ่งหัวหอกฮังกาเรียนกดคนเดียว 4 ประตูในชัยชนะเหนือคู่แข่ง 7-3 ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือ แมนฯยูไนเต็ด เคยยกย่องเขาเป็น 'หนึ่งในผู้เล่นยิ่งใหญ่สุดตลอดกาล' เมื่อได้เห็นการทำประตูของ ปุสกาส จากอัฒจันทร์ในวันนั้น
ราอูล เกิดมาเพื่อเล่นกับทัพ'โลส บลังโกส' สำหรับแฟนๆ UFA23 หลายคนในยุค90 และยุค 2000 ราอูล มีความหมายเหมือน เรอัล มาดริด เขาเป็นตัวแทนของเสื้อสีขาวที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อดีตกัปตันทีมชุดขาวเปิดตัวครั้งแรกกับทีมชุดใหญ่ในปี 1994 ด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาไม่เคยเหลียวหลังไปมองนับตั้งแต่นั้น
ช่วงเวลาโดดเด่นสุดของ ราอูล เกิดขึ้นในเกม'เอล กลาซิโก้'กับ บาร์เซโลน่า เมื่อเขาสงบเสียงเชียร์ของสาวกบาร์เซโลนิสต้าในสังเวียน'คัมป์ นู' หลังการทำประตูตีเสมอในช่วงนาที 86 ในช่วงเดือนตุลาคมปี 1999 ก่อนเกมจะลงเอยด้วยการเสมอ 2-2
ไม่มีแฟนๆมาดริดคนใดสามารถลืมภาพของ ราอูล ที่ทำประตูและฉลองด้วยการใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของเขาส่งสัญญาณถึงสาวกบาร์เซโลนิสต้าว่าหุบปากซะ ช่วงเวลาค้าแข้งตลอด 16 ปีกับทีมชุดขาว เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ทำประตูมากสุดของสโมสร (ก่อนจะถูกทำลายลงโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้) เขานำทีมคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัย และ แชมป์ลีกา อีก 6 ครั้ง กระทุ้ง 228 ประตู จากการลงเล่น 550 เกม
コメント