ซัมเมอร์ที่ล้มเหลวของราชัน?

ถึงเวลาโบกมือลาบุนเดสลีกา ที่ บาเยิร์น มิวนิค จัดการฟาดแชมป์ลีกสมัยที่ 30 ไปครองได้เรียบร้อยแล้ว

เวลานี้ถึงคิวต้อนรับการกลับมาของพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นที่สนใจมากที่สุดสำหรับแฟนบอลบ้านเรา แต่หากพูดถึงลา ลีกา นั้นความน่าสนใจในการลุ้นแชมป์ถือว่ายังมีมากกว่า

การชิงชัยในลีกสูงสุดเมืองกระทิงดุยังคงอยู่ที่ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด

ตอนนี้ บาร์ซ่า อาจมีแต้มนำหน้า คาสิโน ราชันชุดขาว อยู่ 5 คะแนน แต่หาก มาดริด ไม่พลาด 3 แต้มจาก บาเลนเซีย ในค่ำคืนวันพุธ ช่องว่างก็จะลดลงมาเหลือ 2 คะแนนเหมือนเดิม ขณะที่ลงแข่งขันเท่ากัน

ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้น ซีเนดีน ซีดาน และเด็กๆ ของเขาต้องการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกให้ได้นับตั้งแต่ปี 2017 โดยความหวังมากมายนั้นฝากที่บนบ่าของ 2 ดาวดังที่เซ็นสัญญามาในช่วงซัมเมอร์อย่าง เอแด็น อาซาร์ และ ลูก้า โยวิช เมื่อบทสรุปออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019-20 จึงกลายเป็นโอกาสทองของบรรดาทีม 'ม้ามืด' ที่จะมีโอกาสได้สัมผัสแชมป์ อย่าง 4 ทีมที่เข้าสู่รอบก่อนรองฯ ไปแล้ว ล้วนเป็น 'ม้ามืด' แทบทั้งสิ้น นำโดย ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง, แอตเลติโก มาดริด, อตาลันต้า และ แอร์เบ ไลป์ซิก

ขณะเดียวกัน ในถ้วยเล็ก ยูโรปาลีก ก็มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน นั่นคือ 'มินิ ทัวร์นาเมนต์' แต่เพิ่มเติมเล็กน้อย คือสองคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ถูกเลื่อนออกมาตั้งแต่นัดแรก คือ อินเตอร์ มิลาน เจอ เคตาเฟ่ และ เซบีย่า เจอ โรม่า จะถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในทัวร์นาเมนต์ด้วย เป็นการเตะนัดเดียวจอด

'มินิ ทัวร์นาเมนต์' ของ ยูโรปาลีก จะแข่งขันกันที่ประเทศเยอรมนี โดยนัดชิงจะเล่นที่ ไรน์เอเนอร์กี้ สตาดิโอน ในเมืองโคโลญจน์ ทำให้เจ้าภาพนัดชิงเดิม สตาดิโอน เอเนอร์กา กดังค์ ประเทศโปแลนด์ ต้องถูกเลื่อนออกไปในรูปแบบเดียวกับถ้วยใหญ่

ขณะที่ ราชันชุดขาว เดินหน้าล่าแชมป์ยุโรป โดยฟาดถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกไปถึง 4 จาก 6 ปีหลังสุด แต่ในประเทศ พวกเขากลับปล่อยให้ บาร์ซ่า ครองความยิ่งใหญ่อยู่เพียงฝ่ายเดียว

ยักษ์กาตาลันมีคะแนนนำหน้าทีมของ ซีดาน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 10 นัดที่เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะมีโอกาสพรากแชมป์ลีกมาจากอ้อมอก บาร์ซ่า ซึ่งซิวถ้วยลา ลีกา มาตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด

เรอัล ใช้เงินอย่างจริงจังในช่วงซัมเมอร์ที่ UFA23 ผ่านมาเพื่อพยายามที่จะเอาชนะคู่แค้นของพวกเขาให้ได้ แต่จนถึงเวลานี้ เงินก้อนนั้นก็ดูเหมือนจะกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

โยวิช นั้นถูกดึงตัวมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ในราคา 60 ล้านยูโร ขณะที่ อาซาร์ นั้นมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร โดยทั้งสองต่างประสบความสำเร็จอย่างสูงในฤดูกาลที่แล้ว และก็ดูเหมือนว่าจะสามารถเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งเอาไว้

กระนั้น ซีซั่นของ อาซาร์ ดูเหมือนจะไม่ใกล้เคียงกับความหวังหมายเลข 7 เลย เมื่อเขาลงสนามไปเพียงแค่ 11 นัดในลีก และยิงได้แค่ลูกเดียว ก่อนที่จะเจ็บที่กระดูกเท้า และกลับมาได้ในนัดรีสตาร์ทของฤดูกาลนี้

มันเป็นซีซั่นที่เงียบเหงาเอามากๆ ของซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเบลเยียม แต่มันก็คงไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่า โยวิช อีกแล้ว