ความทรงจำของ แกรี่ เนวิลล์
- สุพรรณษา พาคํา
- Oct 26, 2020
- 1 min read

ผมไม่เคยหลั่งน้ำตา มีหลายช่วงเวลาที่ผมเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วมีเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง แต่ผมไม่เคยเสียน้ำตา ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ
แม้ว่าจะมี 3 เหตุการณ์ ที่เกือบจะทำให้ผมหวั่นไหวตามไปก็ตาม
บาร์เซโลน่า
ผมต้องบอกเลยว่าถือเป็นโอกาสที่ดีในการได้รับสัญญาในตอนที่อายุได้ 14 ปี
การลงประเดิมสนาม
นั่นคือความคิดหนสุดท้าย 'ฉันลงเล่นให้ให้ ยูไนเต็ด' สวีทโบนันซ่า ยอดฮิต มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม มันรู้สึกเหมือนกับผ่านมานาน ใช่ มันผ่านมานานมากถึง 25 ปี
และมันเป็นการทุ่มบอลเข้าสนาม เกมประเดิมสนามของผมคือการทุ่มบอลเข้ามาในนัดที่ดวลกับ ตอร์ปีโด มอสโก นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้ใช้เท้าสัมผัสลูกฟุตบอลเลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่เคยเกิดขึ้น แต่มันคือตัวอย่างในเส้นทางอาชีพของผมอย่างแท้จริง!
ผมจำได้ถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับวันนั้น สิ่งที่จดจำได้ดีคือมันเป็นครั้งแรกที่ผมได้พักในโรงแรมก่อนเกมของทีมชุดใหญ่ พ่อของผมทิ้งผมไว้ในตอนรับประทานอาหารกลางวันและเราอยู่ที่โรงแรม มิดแลนด์
ในตอนที่ผมมีอายุได้ 23 หรือ 24 ปี ที่ ยูไนเต็ด เราใช้ห้องร่วมกัน คริส แคสเปอร์ อยู่ในทีมด้วยและผมใช้ห้องร่วมกับเขา ผมเคยใช้ห้องเดียวกับ แคส ในตอนที่เล่นให้ทีมเยาวชน แต่ในตอนที่เราได้ห้องนี้ ผมพูดประมาณว่า:
"แคส ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ พวกเราอยู่ที่โรงแรม มิดแลนด์!"
พวกเราลงไปทานอาหารกลางวันซึ่งไม่น่าเชื่อว่าอาหารทุกอย่างถูกจัดวางแบบบุฟเฟต์ เราเคยทานอาหารที่ เดอะ คลิฟฟ์ ในช่วงวันศุกร์ เธเรซ่า ที่ทำหน้าที่ในโรงอาหารจะนำ ไส้กรอก, มันฝรั่งแผ่น และ ถั่ว มาให้พวกเรา ส่วนวันพฤหัสบดีเป็นครีมชีส
ถ้าทีม เอ ต้องออกไปเยือน มอร์แคมบ์ ในคืนวันศุกร์ เอริค แฮร์รีสัน จะสั่งให้คุณทานมันฝรั่งแผ่นก่อนเกม! มันเกือบจะเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด คุณทราบดีว่าหากเอาชนะมาได้ มันฝรั่งแผ่นของคุณก็จะอร่อยยิ่งขึ้น
จิมมี่ เคอร์แรน นักกายภาพบำบัดและหมอนวดในทีมของ เอริค รวมไปถึงคนที่ยอดเยี่ยมรอบๆตัวเขาจะเดินวุ่นไปตามท้องถนน เมื่อเรากลับมาเขาจะเตรียมมันให้พร้อมอย่างเสร็จสรรพ เป็นเรื่องปกติที่เราสู้อย่างเต็มที่ตามที่ได้รับคำสั่งมา นั่นเป็นเพราะ บัตตี้
บัตตี้ เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่สั่งฟิช แอนด์ ชิพส์ แต่ไส้กรอกกับมันฝรั่งท่าจะดูดีกว่า ต่อมาเขาบอกว่าจะสั่งสิ่งนั้น และมีใครสักคนที่สั่งผิดไป คุณทราบดีว่าไม่มีใครสั่งผิดหรอกแต่เป็น บัตตี้ ที่สั่งผิดไปเสียเอง
คุณอาจจะพูดได้ว่า ตอนที่ผมร่วมทีมครั้งแรกนั้น สโมสรยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาเรื่องอาหาร!
ทันใดนั้น พวกเราอยู่ที่ มิดแลนด์ ผมและแคส อยู่ที่โรงแรมเก่าที่ใหญ่โตซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมือง กำลังจ้องไปที่อาหารมากมาย และคิดว่าทำสำเร็จ ในฐานะเด็ก คุณเพียงลงมือทำ
หลังจากทานเสร็จ พวกเรากลับไปที่ห้อง ASIA369 พร้อมกับเตียงคู่อันโออ่า มันอาจจะเป็นเพียงห้องธรรมดา แต่สำหรับพวกเรามันรู้สึกเหมือนกับห้องสวีต และพวกเรากำลังคิดว่า:
"ตอนนี้จะทำอะไรกันดี?"
คุณอาจจะคิดว่าเป็นการเข้านอน นักเตะที่อาวุโสกว่าทราบดี นั่นคือกิจวัตร ดังนั้นพวกเขาจึงไปเข้านอน แต่พวกเรากลับนอนไม่หลับ เราเพิ่งจะ 17 ปีเองนะ! เป็นไปไม่ได้หรอก
บัตตี้ และ เบ็คส์ อยู่ในทีมเช่นกัน มันเกิดขึ้นหลังจากคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ไม่ถึง 6 เดือน มีการพูดถึงกลุ่มพวกเราอย่างมาก และในตอนนั้นยังเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับนักเตะในกลุ่มของพวกเราที่อยู่ในทีม เอ
ปีแรกของพวกเราที่ลงเล่นฟุตบอลที่ เดอะ คลิฟฟ์ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง ผมมองย้อนกลับไปในตอนนี้และจำหลายสิ่งได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่พวกเรากำลังทำ ซึ่งมันคือฟุตบอลที่พวกคุณจะได้เห็นในระดับที่สูง
ผมจำได้เลยว่า เดอะ คลิฟฟ์ เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพื่อชมพวกเราเล่น ตอนนั้นไม่ว่าใครก็ตามสามารถเดินมาชมได้เลยโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินและมันเต็มตลอด ทีมชุดใหญ่ก็เข้ามาชมเช่นกัน
ฟุตบอลเป็นเรื่องแปลกที่ไม่น่าจะเป็นจริงได้ และนั่นคือการที่ทีมปราศจาก กิ๊กซี่ เกือบจะตลอดเวลาเพราะตอนนั้นเขาถูกดันขึ้นไปอยู่ในทีมชุดใหญ่แล้ว แต่เราจะรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมในตอนที่เขากลับมาสู่ทีมเยาวชน
พวกเราคือทีมที่ไม่น่าจะเป็นจริงไปได้ เพราะตอนนั้นเราไม่มีแม้แต่กองหน้าตัวเป้าในทีม นั่นคือสิ่งเดียวที่พวกเราไม่มี
กิ๊กซี่ เข้ามาและทำให้ระดับมันแตกต่างไปอย่างชัดเจน กอกลางมี เบ็คส์, บัตตี้, ไซม่อน เดวิส, เบน ธอร์นลี่ย์, คีธ กิลเลสพี ... ปีแรกนั้น สโคลซี่ ยังไม่ได้อยู่ในทีมด้วยซ้ำไป!
เป็นเรื่องที่พิเศษที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมนั้น ผมยังคงคิดย้อนกลับไปถึงวันที่ผมได้รับข้อเสนอให้เป็นนักเรียนฝึกหัด
ครอบครัวและตัวของผมคิดเพียงว่าผมกำลังจะรับข้อเสนอไปอีกปี ซึ่งพวกเขาเสนอสัญญา 4 ปีมาให้ ช่วงอายุ 14 - 16 ปีในโรงเรียนเป็นเรื่องของความมั่นใจในการเล่นแบบเต็มเวลาตั้งแต่อายุ 16-18 ปี
พ่อของผมขับรถไปที่โรงเรียนและบอกพวกเขาว่า "ผมอยากให้เขาออกจากโรงเรียน" ซึ่งในตอนที่เขาบอกผมนั้น ผมกำลังคิดว่า "ไม่อยากจะเชื่อเลย"
Comments